Chomngam ช่วยคุณดูเเล สุขภาพ เคล็ดลับที่จะทำให้ร่างกายเเข็งเเรง
การทำศัลยกรรม เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)​

เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

          เสริมจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าตัดจมที่ศัลยแพทย์จะทำแผลเป็นขนาดเล็กที่โคลูเมลลา (Columella) ซึ่งเป็นผิวหนังระหว่างรูจมูก แผลนี้จะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถยกผิวหนังจมูกขึ้นและเผยให้เห็นกระดูกอ่อนจมูกและกระดูกข้างใต้ จากนั้นศัลยแพทย์จะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกได้โดยการเติม เอาออก หรือปรับแต่งกระดูกอ่อนและกระดูกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หลังจากนั้นจะทำการดึงผิวหนังกลับลงมาคลุมโครงสร้างจมูกใหม่และเย็บแผลปิด การผ่าตัดนี้ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและเข้าถึงโครงสร้างจมูกได้ดีขึ้น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความผิดปกติอย่างรุนแรง การผ่าตัดแก้ไขปีญหาจมูก หรือการปรับแต่งปลายจมูก นอกจากนี้ยังช่วยให้ควบคุมความสมดุลและการฉายของจมูกได้ดีขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาการทำงานของจมูก เช่น กระดูกอ่อนกั้นกลางจมูกคด หรือโพรงจมูกโต อย่างไรก็ตาม การเสริมจมูกแบบเปิดก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดแผลเป็นเล็กๆ ที่โคลูเมลลา ซึ่งอาจมูกองเห็นได้ชัดเจนในบางกรณี นอกจากนี้ การผ่าตัดนี้ยังใช้เวลาผ่าตัด ยาสลบ และเวลาพักฟื้นนานกว่าการทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิดจมูก

เสริมจมูกแบบเปิด เหมาะกับใคร ?

การทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด เหมาะกับผู้ที่มีความต้องการหรือปัญหาดังต่อไปนี้

  • ต้องการแก้ไข จมูก ที่มีรูปร่างหรือโครงสร้างที่ผิดปกติอย่างรุนแรง เช่น จมูกคด จมูกใหญ่ จมูกสั้น เป็นต้น
  • ต้องการแก้ไขจมูกที่มีเนื้อน้อยหรือบาง
  • ต้องการแก้ไขปลายจมูกที่งุ้มหรือใหญ่
  • ต้องการแก้ไขปัญหาการหายใจ เช่น กระดูกอ่อนกั้นกลางจมูกคด หรือโพรงจมโต

การทำศัลยกรรมจมูกแบบเปิดมีข้อดีคือ ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและเข้าถึงโครงสร้างจมูกได้ดีขึ้น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้นได้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการหรือปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิดก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดแผลเป็นเล็กๆ ที่โคลูเมลลา ซึ่งอาจมูกองเห็นได้ชัดเจนในบางกรณี นอกจากนี้ การผ่าตัดนี้ยังใช้เวลาผ่าตัด ยาสลบ และเวลาพักฟื้นมากกว่าการทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด

ก่อนตัดสินใจทำจมูกแบบเปิด ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความต้องการและปัญหาของจมูกอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัยที่สุด

เสริมจมูก แบบเปิด (Open Rhinoplasty)​
  • ข้อดี:
    • ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและเข้าถึงโครงสร้างจมได้ดีขึ้น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความผิดปกติอย่างรุนแรง การผ่าตัดแก้ไขจม หรือการปรับแต่งปลายจม
    • ช่วยควบคุมความสมดุลและการฉายของจมได้ดีขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาการทำงานของจม เช่น กระดูกอ่อนกั้นกลางจมคด หรือโพรงจมโต
  • ข้อเสีย:
    • จะมีแผลเป็นเล็กๆ ที่โคลูเมลลา ซึ่งอาจมองเห็นได้ชัดเจนในบางกรณี
    • ต้องใช้เวลาผ่าตัด ยาสลบ และเวลาพักฟื้นมากกว่าการทำศัลยกรรมเสริมจมแบบปิด
    • อาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำมากขึ้นที่จมและเนื้อเยื่อรอบข้าง ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าจะหายดี

ขั้นตอนของการ เสริมจมูกแบบเปิด มีดังนี้

1. ปรึกษาศัลยแพทย์

ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความต้องการและปัญหาของจมูกอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัยที่สุด ศัลยแพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์ ความต้องการ และปัญหาของจมูก จากนั้นจะทำการตรวจร่างกายและถ่ายภาพจมูก เพื่อประเมินโครงสร้างและปัญหาของจมูกอย่างละเอียด

2. เตรียมตัวก่อนผ่าตัด

ก่อนการผ่าตัด ศัลยแพทย์อาจให้หยุดยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบหรือยาละลายลิ่มเลือด นอกจากนี้ ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน

การทำศัลยกรรม เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)​

3. ผ่าตัด

การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ศัลยแพทย์จะทำแผลผ่าตัดที่โคลูเมลลา จากนั้นจะทำการยกผิวหนังจมขึ้นและเผยให้เห็นกระดูกอ่อนจมูกและกระดูกข้างใต้ จากนั้นศัลยแพทย์จะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกได้โดยการเติม เอาออก หรือปรับแต่งกระดูกอ่อนและกระดูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หลังจากนั้นจะทำการดึงผิวหนังกลับลงมาคลุมโครงสร้างจมูกใหม่และเย็บแผลปิดจมูก

การทำศัลยกรรม เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)​

4. พักฟื้น

หลังการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะใส่เฝือกหรือเทปปิดจมูกเพื่อป้องกันการขยับของจมูก ผู้ป่วยจะต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 1 วัน จากนั้นสามารถกลับบ้านได้ แต่จะต้องงดการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์

5. ติดตามผล

หลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องนัดพบศัลยแพทย์เพื่อติดตามผลเป็นระยะ ๆ ศัลยแพทย์จะตรวจสอบความคืบหน้าของจมูกและตอบคำถามเกี่ยวกับการดูแลจมูกหลังผ่าตัด

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ห้ามสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกหรือถูจมูก
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด

อาการบวมและช้ำที่จมูกและใบหน้าจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะสามารถเห็นผลลัพธ์ของการผ่าตัดได้ชัดเจนภายใน 1-2 เดือน

ข้อควรระวังหลังการเสริมจมูก

  • การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ เลือดออก ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ เป็นต้น
  • ผู้ป่วยควรเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการทำจมูกแบบเปิด
  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัด
Optimized with PageSpeed Ninja